วัดราชาธิวาส.. การรวมกันของศิลปะต่างชาติ

〰

          วัดราชาธิวาส ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีการรวบรวมรูปแบบศิลปะและสถาปัตยกรรมของหลายประเทศเข้าไว้ด้วยกัน จากวันที่ได้ไปทัศนศึกษาทำให้ได้เห็นถึงรายละเอียดของการผสมผสานวัฒนธรรมเหล่านี้ โดยเริ่มจากจุดที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของวัดแห่งนี้ นั่นก็คือในส่วนพระอุโบสถวัดราชาธิวาสที่สร้างตามรูปแบบศิลปะขอม และเป็นต้นแบบให้กับอาคารหอประชุมจุฬาฯ อีกด้วย

พระอุโบสถ วัดราชาธิวาส

          เมื่อเราเดินเข้ามายังภายในพระอุโบสถ เราจะพบกับซุ้มที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ โดยใช้กรอบซุ้มอย่างขอมมาผสมผสานกับเสาซุ้มอย่างตะวันตก มีการนำตราพระราชลัญจกรของพระมหากษัตริย์ 5 รัชกาลมาแทรกไว้ที่ปลายกรอบซุ้มแต่ละแห่ง ภายในกรอบซุ้มยังมีการเขียนภาพจิตรกรรมเป็นภาพพระพุทธเจ้ายืน มีพระสารีบุตรและพระอินทร์มาเฝ้า และภาพกษัตริย์แห่งศากยวงศ์เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า โดยภาพรวมถือว่าสามารถนำเสาแบบตะวันตกเข้ามาใช้กับศิลปะไทยได้อย่างลงตัว ดูไม่ขัดแย้งกัน

ซุ้มภายในพระอุโบสถ

เสาซุ้มแบบตะวันตกและตราพระราชลัญจกร 5 รัชกาล

          ถัดมาจากซุ้มประตูจะมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังที่ใช้เทคนิคการวาดแบบ เฟรสโก ซึ่งเป็นเทคนิคการเขียนสีบนปูนเปียกของโลกตะวันตก สามารถทำให้รูปภาพบนฝาผนังเหล่านี้อยู่ได้เป็นร้อยปีโดยไม่หลุดลอก ภาพทั้งหมดเขียนและลงสีโดยชาวอิตาลีนาม คาร์โล ริโกลี  นอกจากนี้ ยังมีความสมจริงทั้งฉาก บุคคล ธรรมชาติ ถือเป็นครั้งแรกที่จิตรกรรมฝาผนังเนื่องในพุทธศาสนาถูกเขียนด้วยเทคนิคแบบนี้ โดยเรื่องราวทั้ง 13 กัณฑ์ถูกแบ่งเขียนลงทั้งผนังเหนือช่องประตูและหน้าต่างและผนังระหว่างกลาง

จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ เทคนิคเฟรสโก

          ส่วนสุดท้ายจากการไปดูงานคือในส่วนของเจดีย์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงปราสาทตามแบบศรีวิชัยผสมผสานเข้ากับเจดีย์ศิลปะปาละของอินเดีย ประดิษฐานพระพุทธรูปในซุ้มทั้งสี่ด้าน ตั้งอยู่บนฐานสิงห์ล้อมมีซุ้มรอบโดยบริเวณที่เป็นฐานสิงห์ล้อมนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและพบเฉพาะในประเทศไทยอีกด้วย

เจดีย์ วัดราชาธิวาส

ฐานสิงห์

👱👧👨👩👳💂

〰